เนตรวงวงแหวน เนตรสีขาว เนตรสังสาระ

ต้นกำเนิด
เนตรเท็นโซ
     หลังจากที่เซียน 6 วิถีได้ผนึกพลังของ 10 หางแยกพลังออกมา9ส่วนกำเนิดเป็นสัตว์หางทั้ง9ตัวได้รับพลังอันไร้ขีดจำกัดได้ใช้พลังนั้นเพื่อชี้นำโลกไปสู่สันติภาพ แต่ทว่าเมื่อความฝันไปได้เพียงครึ่งทางเท่านั้นเวลาของเซียนผู้ยิ่งใหญ่ก็มาถึงก่อนสิ้นใจจึ่งจำเป็นต้องมอบพลังและกำหนดผู้สืบทอดคือบุตรชายทั้ง 2 คนโดยพี่นั้นมี "เนตรแห่งเซียน" มีพรสวรรณ์ทางด้านพลังจิตประสาทและอำนาจจักระเข้าใจว่าพลังอำนาจเป็นสิ่งจำเป็นต่อสันติภาพ ส่วนคนน้องมี "กายแห่งเซียน" มีพรสวรรณ์ด้านพลังชีวิตและพลังกายเข้าใจว่าความรักเป็นสิ่งจำเป็นต่อสันติภาพ เมื่อใกล้สิ้นใจเซียน 6 วิถีได้กำหนดตัวผู้สืบทอดโดยเลือกคนน้องผู้เห็นว่าความรักเป็นสิ่งจำเป็นต่อสันติภาพเป็นผู้สืบทอดทำให้ผู้เป็นพี่ไม่พอใจและได้ต่อสู้กับผู้เป็นน้อง กาลเวลาล่วงเลยผ่านไปการต่อสู้ของพี่น้องก็ยังคงดำเนินอยู่ผ่านทางลูกหลานโดยลูกหลานของฝ่ายพี่คือ ตระกูลอุจิวะ และลูกหลานของฝ่ายน้องคือ ตระกูลเซนจู(ตระกูลของโฮคาเงะรุ่นแรก)
เนตรวงแหวน
ชารินงัน
ความสามารถ
          เนตรวงแหวนมีความสามารถในการก๊อปปี้จดจำ นินจุตสุ (วิชานินจา),เกนจุตสุ (วิชาภาพลวงตา) และ ไทจุตสุ (การต่อสู้ตัวต่อตัว) ได้อย่างแม่นยำ และ ผู้ใช้สามารถใช้กระบวนท่าและวิชาเดียวกันได้ นอกจากนี้ยังมีความสามารถในการสะกดจิต,มองเห็นภาพลวงตา และ ทำนายการเคลื่อนไหวของคู่ต่อสู้ เนตรวงแหวน ส่วนการเลื่อนระดับความสามารถต้องได้รับความทุกข์อย่างแสนสาหัสและจบลงที่การไม่สามารถรอดชีวิตจากเนตรของตนเองได้ต้องทำการแย่งชิงเนตรของผู้อื่นๆเพื่อต่อชีวิตตนเอง

ระดับการพัฒนา

       ขั้นเบิกเนตร
       1.เนตรวงแหวนริวงิ วงแหวน 1 วงแทนความเศร้าที่ตนเองไม่สามารถทำได้ เรียนความไวในการร่ายคาถา
       2.เนตรวงแหวนชางิ วงแหวน 2 วงแทนความอ่อนแอของตนเอง สามารถก็อปปี้วิชาบางส่วนและอ่านจักระของผู้ต่อสู้ด้วยได้
       3.เนตรวงแหวนชารินงัน วงแหวน 3 วงแทนความริษยาและต้องการวิชาของผู้อื่นๆ ความสามารถในการก็อปปี้วิชาและการอ่านวิชาของผู้ต่อสู่ด้วย

ขั้นเปิดนรก
          ความลับในการเลื่อนระดับความสามารถของเนตรคือต้องได้รับความทุกข์จากการฆ่าชีวิตใครก้ได้อันเป็นที่รักเพื่อรับความทุกข์เพื่อให้ตนเองได้พลังมา
      4.เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุบผา (มังคโยชาริงกัน) สามารถใช้วิชาเนตรที่ทรงพลังได้ 3อย่างคือ เทวีสุริยาจากตาซ้าย อ่านจันทราจากตาขวา และเทพวายุ แต่ยิ่งใช้มากจะทำให้ตาบอดหรืออาจถึงแก่ความตายได้ สามารถพัฒนาต่อได้โดยควักดวงตาตนเองออกไปและนำเนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผาของผู้ของผู้อื่นที่มีสายเลือดอุจิวะเท่านั้นมาใส่แทนสามารถพัฒนาเป็นตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุบผานิรันคร์
     5.เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุบผานิรันดร์ เป็นเนตรขั้นต่อจากเนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุบผาจะเบิกได้โดยการ ฆ่าพี่น้องที่มีเนตรวงแหวนเหมือนกัน และ เอามาใส่ในดวงตาของตัวเอง คนๆนั้นจะมีชิวิตอมตะ และ ตาไม่บอดอีกต่อไป พร้อมทั้งรับบาปทั้ง 7 โดยที่ตนเองไม่มีวันที่จะได้ตายอีกเลย

บุคคลที่ใช้เนตรวงแหวนเป็นอาวุธ

       1. อุจิวะ มาดาระ (เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผานิรันดร์) ผู้นำตระกูลอุจิวะในยุคก่อตั้งโคโนะฮะ เป็นคนแรกและคนเดียวที่เคยใช้เนตรวงแหวนควบคุมจิ้งจอกเก้าหางและมิซึคาเงะรุ่น 4
       2. อุจิวะ อิซึนะ (เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา) น้องชายของมาดาระ
       3. อุจิวะ อิทาจิ (เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา) สามารถใช้วิชาเนตรหลักได้ทั้ง 3 อย่างคือ อ่านจันทรา,เทวีสุริยา เทพวายุ ซึ่งใช้ฆ่าล้างตระกูลอุจิวะจนหมดสิ้นเหลือไว้เพียงซาสึเกะคนเดียว แต่อิทาจิเป็นคนมีโรคประจำตัวเยอะคาดว่าคงจะเป็นโรคหัวใจหรือมะเร็งทำให้ไม่ค่อยใช้วิชาเนตรมากสักเท่าไหร่จะสงวนไว้ใช้พลังในยามคับขันจริงๆเท่านั้น
      4. อุจิวะ ชิซุย (เนตรวงแหวน) เพื่อนสนิทของอิทาจิ ถูกอิทาจที่เป็นเพื่อนรักของเขาเองสังหารเพื่อที่อิทาจิจะได้มาซึ่งเนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา เนตรวงแหวนของชิซุยคาดว่าดันโซจะขโมยไปใส่ตาขวาของเขาพลังเนตรของชิซุยกล่าวกันว่ามีพลังถึงขั้นสูงสุดของเนตรวงแหวนคือสามารถใช้พลังเนตรควบคุมจิตใจของผู้อื่นจนแม้แต่ผู้ที่ถูกควบคุมอยู่ไม่รู้ตัวว่าถูกควบคุม
      5. อุจิวะ ฟุงากุ (เนตรวงแหวน) หัวหน้าตระกูลอุจิวะ เจ้าของเนตรวงแหวน พ่อแท้ๆของอิทาจและซาสึเกะ เป็นผู้ที่สอนคาถาไฟให้ซาสึเกะและเป็นคนแรกที่บอกเล่าถึงเรื่องเนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา โดนอิทาจิสังหารในเหตุการณ์ฆ่าล้างตระกูล
      6. ฮาตาเกะ คาคาชิ (เนตรวงแหวนข้างซ้าย) คาคาชิสามารถใช้เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา เพราะเนื่องจากที่ได้มาจากการฝึกฝน ต่างกับของอิทาจิที่ได้มาจากการสังหารเพื่อนสนิท ทำให้พลังที่ได้จึงแตกต่างกัน คือ สามารถย้ายสิ่งต่างๆ ที่ตนเพ่งไปยังมิติอื่นได้ อาทิเช่น แขนของเดอิดาระ มาจากเพื่อนในสมัยเด็กคืออุจิวะ โอบิโตะหลังจากไปช่วยรินที่ถูกศัตรูชิงตัวไป ซึ่งเพื่อนของเขาได้มอบเนตรวงแหวนให้คาคาชิก่อนที่จะตาย เพื่อเป็นของขวัญที่คาคาชิสามารถสอบเป็นโจนินได้สำเร็จ
      7. อุจิวะ ซาสึเกะ (เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผานิรันดร์) ทายาทคนสุดท้ายของอุจิวะ สามารถเบิกเนตรวงแหวนกระจกเงาเหมือนบุปผาได้หลังจากการตายของอิทาจิและใช้มันในการต่อสู้กับ 8หาง เหล่าคาเงะ และดันโซ หลังจากพบว่าการมองเริ่มขุ่นมัวลงเรื่อยซาสึเกะจึงตัดสินใจเปลี่ยนถ่ายเนตรของอิทาจิมาใส่ไว้ ปัจจุบันยังไม่ปรากฏชัดว่าเนตรวงแหวนใหม่ของซาสึเกะมีรูปร่างอย่างไร
      8. อุจิวะ โอบิโตะ เป็นคนมอบเนตรวงแหวนข้างซ้ายของตนเองให้กับคาคาชิ ที่เป็นเพื่อนรักกัน และเป็นน้องชายของโยคุอุจิ
      9. ชิมุระ ดันโซ (เนตรวงแหวน ข้างขวา และแขนขวาทั้งแขน) มีเนตรวงแหวนข้างเดียวกับคาคาชิ โดยมีผ้าปิดตาอยู่ แต่ถูกนินจาติดตามมิซึคาเงะที่ได้เนตรสีขาวจากการต่อสู้ตรวจสีจักระและพบว่าเนตรวงแหวนของดันโซแท้จริงมาจากชิซุยเพื่อนรักของอิทาจินั้นเอง ความสามารถของเนตร คือสามารถบังคับจิตใจคนได้โดยผู้อื่นไม่รู้ตัว โดยดันโซได้ใช้เนตรควบคุมมิฟุเนะเพื่อให้เลือกตนเองเป็นผู้นำเหล่าคาเงะ นอกจากนั้น ยังสามารถใช้วิชาต้องห้ามของตระกูลอุจิวะ นั่นคือ อิซานางิ ซึ่งสามารถเปลี่ยนการโจมตีทางกายภาพให้เป็นภาพลวงตา หรือเปลี่ยนภาพลวงตาให้กลายเป้นการโจมตีทางกายภาพ เสมือนสามารถควบคุมโลกแห่งความเป็นจริงได้สบาย แลกกับความมืดของดวงตาที่จะบอดไปตลอดกาล โดยมีเวลาจำกัดในการใช้ครั้งละประมาณ 1 นาที

รายชื่อผู้ที่สามารถเบิกเนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผาได้
     อุจิวะ มาดาระ
     อุจิวะ อิซึนะ
     อุจิวะ อิทาจิ
     อุจิวะ ซาสึเกะ
     อุจิวะ ฟุงากุ

ฮาตาเกะ คาคาชิ
           หมายเหตุ ผลกระทบ จากการใช้ เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา คือจะไม่ได้รับแสงสว่างอีกต่อไป ซึ่งนั่นก็คือ ตาบอดนั่นเองอุจิวะ อิทาจิ ได้พูดไว้ในตอน 386 แต่เนตรหมื่นบุปผานิรันดร์ของมาดาระและเนตรหมื่นบุปผาเพลิงอัคคีของโยคุอุจิจะไม่ได้รับผลกระทบนี้ เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผานิรันดร์ จะใช้เนตรนี่เท่าไรก็ได้ เพราะเนตรนี่จะไม่มีวันกลับไปตาบอดอีกได้อีก แล้วจะมีชีวิตที่เป็นอมตะ ไม่มีวันตาย

เนตรสีขาว

           เนตรสีขาวหรือเรียก เบียงุกัน (ความหมาย: ตาสีขาว)เป็นสายเลือดพิเศษในตระกูลฮิวงะ สืบทอดต่อๆกันมา มีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นต้นกำเนิดของเนตรวงแหวน

ความสามารถ

           เนตรสีขาวความสามารถหลักคือสามารถมองทะลุสิ่งต่างๆได้ในระยะ 5,000 กิโลเมตรและมองเห็นรอบตัวได้ 360 องศา และผู้ใช้เนตรยังสามารถมองเห็นจุดพลังและเส้นพลังของจักระที่ไหลเวียนในร่างกายทั้งหมดในร่างกายได้

วิชาที่ใช้กับเนตรสีขาว

          มวยอ่อน เป็นกระบวนท่าการต่อสู้สายฮิวงะ ซึ่งจะใช้ควบคู่กับเนตรสีขาวมีความสามารถ คือ สกัดหรือเพิ่มพูนการไหลเวียนของจักระในร่างกายของคู่ต่อสู้ คลื่นสววรค์ เป็นการปล่อยจักระจากทุกส่วนของร่ายกายแล้วหมุนตัวอย่างรวดเร็ว เป็นการป้องกันที่ไร้ช่องโหว่และยังสามารถใช้โต้กลับได้ด้วย มวยแปดทิศ64ฝ่ามือ เป็นท่าที่อันตรายมาก ผู้ใช้จะสกัดกั้นการไหลเวียนของจักระทุกจุดของร่างกาย ทำให้คู่ต่อสู้ไม่สามารถรีดเร้นจักระได้ และเมื่รีดเร้นจักระไม่ได้ก็ใช้วิธีนินจาไม่ได้อีก
        ฝ่ามือว่างแปดทิศ
        ฝ่ามือทลายภูผาแปดทิศ
        ฝ่ามือคลื่นพลังสวรรค์

บุคคลที่ใช้เนตรสีขาวเป็นอาวุธ

       ฮิวงะ เนจิ ทายาทชายในตระกูลสาขาของกลุ่มฮิวงะ เป็นอัจฉริยะของตระกูลฮิวงะเพราะมีความสามารถในการใช้มวยอ่อนเหนือกว่าตระกูลหลัก
       ฮิวงะ ฮินาตะ ทายาทของตระกูลหลัก น่ารักสุดและนิสัยดีที่สุดในเรื่อง เป็นผู้หญิงที่ขี้อายและเงียบครึมแต่จริงๆแล้วจิตใจเข้มแข็งพอๆกับนารูโตะเลยทีเดียว
       ฮิวงะ ฮานาบิ น้องสาวของ ฮินาตะ
       ฮิวงะ ฮิอาชิ พ่อของฮินาตะและฮานาบิ และเป็นถึงหัวหน้าตระกูลฮิวงะ
       ฮิวงะ ฮิซาชิ พ่อของเนจิ เสียชีวิตเพื่อปกป้องพี่น้องและครอบครัวอย่างเต็มใจ
ผู้ใช้เนตรสีขาวมีมากมายในหมู่บ้านโคโนะฮะหรือแม้แต่แคว้นอื่น

เนตรสังสาระ

       เนตรสังสาระ (หรือเรียก เรนนินงันReinningan) พื้นฐานของเนตรสังสาระสามารถทำให้ผู้ใช้สามารถบังคับใช้วิชานินจาได้ทุกสาย ตั้งแต่ สายดิน น้ำ ลม ไฟ และ สายฟ้า เพียงแต่ในเรื่อง คุณมาซาชิ จะกำหนดไว้ว่า เนตรสังสาระ เป็นวิชาเนตรของนินจาจากตระกูลฟูมะ ซึ่งแข็งแกร่งที่สุด ปัจจุบันผู้ครอบครองคือเพน(นางาโตะ)แห่งแสงอุษา โดยเพนใช้พลังของเนตรด้วยการใช้วัตถุที่สามารถรับส่งจักกระจากระยะไกลเสียบ ในร่างของศพเพื่อควบคุม โดยสามารถควบคุมได้พร้อมกันถึง 6 ศพและแต่ละศพสามารถใช้พลังที่เด่นสุดขั่วถึง 6 ความสามารถ ได้แก่ คาถาอันเชิญสัตว์ คาถาดูดกลืนการโจมตีทุกชนิด คาถาคืนชีพ คาถาแรกดึงดูดและผลักดัน คาถาดูดวิญญาณ คาถาควบคุมเครื่องจักร โดยแต่ละศพมีเนตรสังสาระ สามารถมองเห็นจากหลายจุดพร้อม ทำให้ได้เปรียบในการต่อสู้ และเนตรสังสาระยังสามารถอัญเชิญปีศาจที่ดูดกลืนวิญญาณหรือปลดปล่อยวิญญาณได้ อีกด้วย

        เนตรสังสาระ เป็นหนึ่งในสุดยอดเนตรทั้งสาม เนตรสังสาระนั้นถูกกล่าวถึงไว้ว่าเป็นการเดินทางเคลื่อนย้ายของวิณญาณ ซึ่งว่ากันว่าเนตรนี้กำเนิดขึ้นมาได้เพราะ ฤาษี/นักปราญจ์ จากแค้วนทั้งหกคน ผู้นำของเหล่านินจาทั้งหลาย สามารถเบิกเนตรสังสาระได้สำเร็จและวิชานินจาทั้งหลายที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน ล้วนมีต้นกำเนิดมาจากเนตรสังสาระทั้งสิ้น และในตอนนี้ผู้ที่มีเนตรสังสาระก็ คือ เพน

        เพนซึ่งเป็นหัวหน้าของกลุ่มแสงอุษานั้น เขามีถึงหกร่างที่ใช้ในการต่อสู้ ซึ่งแต่ละร่างนั้นก็มีความสามารถต่างกันออกไป
เพนเรียกตัวเองว่า "เพนหกวิถี" ซึ่งประกอบไปด้วย
ฑูตแห่งพระเจ้า ฑูตแห่งอสูร ฑูตแห่งเดรัจฉาน ฑูตแห่งนรก ฑูตแห่งวิญญาณ และฑูตแห่งโลกมนุษย์ 

ความสามารถของเพนหกวิถี แยกออกมาเป็นดังนี้

     - ร่างฑูตแห่งพระเจ้า มีความสามารถในการใช้จักระและวิชานินจาเกี่ยวกับฝน
     - ร่างฑูตแห่งอสูร มีความสามารถในการกลายร่างคล้ายกับเทพอสูร และสามารถสร้างอาวุธโจมตีได้จากร่างกาย
     - ร่างฑูตแห่งเดรัจฉาน มีความสามารถในการอันเชิญสัตว์เดรัจฉานที่ดุร้าย
     - ร่างฑูตแห่งนรก มีความสามารถเสมือนดังยมบาลที่มาเพื่อมอบความหวาดกลัวและความตายจากนรก (ข้อมูลไม่ชัดเจน)
    - ร่างฑูตแห่งวิญญาณ มีความสามารถในการดูดซับพลังจักระไม่มีที่สิ้นสุด ทั้งเช่นวิญญาณที่หิวโหย
    - ร่างฑูตแห่งโลกมนุษย์ มีความสามารถในการดึงวิญญาณออกจากร่าง


        เมื่อมีเนตรนี้ผู้ใช้ก็จะสามารถเรียนรู้วิชานินจาได้ทั้งหมด นอกจากนั้นยังสามารถใช้วิชานินจาของทุกธาตุได้อย่างไม่มีข้อบกพร่อง

        ดังนั้น ผู้ที่สามารถเบิกเนตรสังสาระนี้ได้ จึงถูกขนานว่าเป็นพระเจ้าแห่งการสร้าง ที่จะนำมาซึ่งความสงบสุขแก่โลก หรือ อาจจะเป็นพระเจ้าแห่งการทำลาย ที่จะมาทำให้โลกที่มีความวุ่นวายยุ่งเหยิง กลายเป็นผลธุลีเหลือแต่ความว่างเปล่า
(ซ้ำก็ขอโทดนะคับ)

 สายเฉพาะ

      เป็นสายเลือดที่มีการใช้ธาตุในการรีดจักระได้มากกว่า 2 อย่างหรือนอกเหนือจากธาตุธรรมดาปกติด้วย


ข้อมูลจาก  เว็บ1  เว็บ2  เว็บ3
  

2 ความคิดเห็น:

  1. เนตรวงแหวนนี่ เป็นเนตรแห่งความทุกข์ทรมาร หรือไง กันนะ

    ตอบลบ
  2. อยากได้เนตรสังสาระจัง

    ตอบลบ