แสงอุษา คือองค์กรที่อยู่ในการ์ตูนนินจาคาถาโอ้โฮเฮะ ก่อตั้งขึ้นโดยมีสมาชิกเป็นนินจาถอนตัว ที่มีค่าหัวระดับ S (คือมีความอันตรายสูงสุดยิ่งกว่า อาชญากรค่าหัวระดับ A) สมาชิกทุกคนเป็นนินจาที่ทรยศหรือถอนตัวจากหมู่บ้านของตนเอง และทำงานร่วมกันเพื่ออุดมการณ์ที่ยิ่งใหญ่บางอย่างร่วมกันคือการปกครองโลกโดยแต่ละคนก็มีจุดหมายแอบแฝงไว้ต่างหาก ซึ่งค่อนข้างแน่นอนว่าจุดหมายนั้นเป็นอันตรายต่อโลก แสงอุษาเริ่มปรากฏตัวในช่วงกลางเรื่องของภาคแรก แต่ก็ยังไม่มีบทบาทสำคัญจนถึงภาคที่ 2 ซึ่งมีความสำคัญและมีบทบาทต่อเนื้อเรื่องอย่างมาก
ภาพรวม
สมาชิกระดับสูงนั้นมีประมาณ 10 คน ซึ่งหากมีสมาชิกคนใดเสียชีวิต ก็จะมีการหาสมาชิกใหม่ที่ฝีมือดีเข้ามาแทนที่ โดยแสงอุษายังมีสมาชิกระดับล่างเป็นอดีตนินจานับร้อยคนในหมู่บ้านอาเมะคากุเระแทบทั้งหมู่บ้าน ซึ่งหันมาภักดีกับโทบิ(อุจิวะ มาดาระ) หัวหน้าแสงอุษา โดยสมาชิกระดับสูงทุกคนนั้นเป็นผู้ทรยศหมู่บ้านตนเองและเป็นที่ต้องการตัวในฐานะอาชญากรที่อันตรายระดับสูง
สมาชิกแสงอุษามักจะแบ่งทีมให้ทำงานกันเป็นคู่ โดยทีมจะถูกแบ่งตามความสามารถและพรสวรรค์ ออกปฏิบัติภารกิจลับของแสงอุษาร่วมกัน สมาชิกที่คู่หูเสียชีวิตไปก็ยังคงสามารถทำงานต่อไปได้จนกว่าจะมาคู่หูคนใหม่มาแทน อย่างน้อยที่สุด ความสัมพันธ์ระหว่างคู่หู ในบางครั้งเป็นรูปแบบของความเลื่อมใสในตัวอีกคนหนึ่ง หรือไม่ก็แค่ทำงานกับคู่หูของเขาเพื่อบรรลุจุดประสงค์ขององค์กรเท่านั้น โดยทั่วไป จะเห็นว่าสมาชิกแสงอุษาแต่ละคนไม่ได้กังวลกับชะตากรรมของคู่หูสักเท่าไหร่ พวกเขากังวลแค่การตายของบางคนจะมาจากใครก็ตามที่แข็งแกร่งพอที่จะฆ่าพวกเขาได้
แสงอุษาเป็นองค์กรที่รู้จักกันแพร่หลาย ด้วยการที่สมาชิกเดินทางไปปฏิบัติภารกิจตามแคว้นและหมู่บ้านต่างๆ ในโลกของนารูโตะ เนื่องจากสมาชิกแต่ละทีมต้องแยกกันออกไปตามสถานที่ต่าง จึงทำให้พวกเขาใช้วิธีประชุมกันทางโทรจิต ในกรณีที่มีความจำเป็นจะต้องมีปฏิสัมพันธ์กัน สมาชิกจะใช้ร่างปลอมเพื่อพบกันที่รังลับของแสงอุษา รวมถึงการมาพบกันเพื่อประกอบพิธีลับบางอย่างซึ่งเกี่ยวกับจุดประสงค์ของแสงอุษา
ชุด
สมาชิกระดับสูงของแสงอุษาจะแต่งกายด้วยเสื้อคลุมที่เหมือนกันทุกคน คือเสื้อคลุมดำยาว มีลวดลายเป็นรูปเมฆสีแดงและข้างในเป็นสีแดง สมาชิกทุกจะทาสีที่เล็บมือและเล็บเท้า มักจะเห็นพวกเขาจะสวมหมวกฟางใบใหญ่ และมีกระดิ่งที่ห้อยลงมาเพื่อปกปิดใบหน้าเวลาที่เห็นพวกเขาออกไปปฏิบัติภารกิจ แต่หมวกมักจะถูกทิ้งไว้หลังจากพวกเขาหายตัวไป นอกจากนี้สมาชิกแต่ละคนยังคงสวมกระบังหน้าจากอดีตหมู่บ้านนินจาที่เขาสังกัด แต่จะทำสัญลักษณ์เส้นขีดฆ่าทับสัญลักษณ์ของหมู่บ้านไว้ (ซึ่งสมาชิกระดับล่าง เช่นบรรดาอดีตนินจาสังกัดหมู่บ้าน อาเมะคากุเระ ที่หันมาจงรักภักดีต่อเพน ก็จะกระทำสัญลักษณ์นี้ในแบบเดียวกัน) สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าความผูกพันของพวกเขาต่ออดีตหมู่บ้านนั้นจะไม่มีอีกต่อไป สมาชิกของระดับสูงของแสงอุษาจะสวมแหวนที่เป็นเอกลักษณ์ และสมาชิกแต่ละคนจะไม่สวมแหวนในนิ้วที่ซ้ำกัน แหวนที่ปรากฏมีทั้งหมด 10 วงซึ่งจะมีการสลักตัวอักษรที่แตกต่างกันออกไป
- นิ้วโป้งขวา Rei (ศูนย์) สวมโดย เพน
- นิ้วชี้ขวา Seiryū (มังกรฟ้า) สวมโดย เดอิดาระ
- นิ้วกลางขวา Byakko (เสือขาว) สวมโดย โคนัน
- นิ้วนางขวา Suzaku (นกแดงชาด) สวมโดย อิทาจิ
- นิ้วก้อยขวา Genbu (เต่าดำ) สวมโดย เซ็ตสึ
- นิ้วก้อยซ้าย Kūchin (ความว่างเปล่า) อดีตถูกสวมโดย โอโรจิมารุ และถูกเขายึดไปด้วยไม่ได้คืนให้แสงอุษา
- นิ้วนางซ้าย Nanju (ดาวทิศใต้) สวมโดย คิซาเมะ
- นิ้วกลางซ้าย Hokuto (ดาวทิศเหนือ) สวมโดย คาคุสึ
- นิ้วชี้ซ้าย santai (สามระดับ) สวมโดย ฮิดัน
- นิ้วโป้งซ้าย gyokunyo (พรหมจรรย์) สวมโดย โทบิ (ในอดีต - ซาโซริ เป็นผู้สวมใส่)
โดยเวลาที่แสงอุษามาพบกันเพื่อประกอบพิธีบางอย่างที่รังลับ ทุกคนจะยืนบนนิ้วมือของรูปปั้นอสูรลึกลับ ตามตำแหน่งเดียวกับแหวนที่พวกเขาสวมใส่ด้วย แหวนนี้น่าจะมีความเกี่ยวข้องกับวิชานินจากที่ใช้เมื่อเวลาประกอบพิธีกรรมและตำแหน่งของการยืนนั้น
เป้าหมาย
แสงอุษา เป็นองค์กรที่ก่อตั้งโดย อุจิวะ มาดาระ ในเบื้องต้นพบว่าทำงานลอบสังหารและจารกรรม นอกจากนี้สมาชิกบางคนยังมีจุดประสงค์แอบแฝงต่างหากในการเข้าร่วมกับแสงอุษา เช่น คาคุสึ เข้าร่วมเพราะว่ามันเป็นทางที่จะสามารถหาเงินได้อย่างง่ายๆ อย่างไรก็ตามในภายหลังมีการเปิดเผยจุดประสงคที่ดูเหมือนจะเป็นจุดประสงค์แท้จริงของแสงอุษาคือการ ครอบครองโลก โดยมีผู้นำคือ เพน
การตามจับสัตว์หางทั้ง 9
ทุกครั้งที่จับสัตว์หางมาได้ พวกเขาจะนำไปที่รังของแสงอุษาที่ใกล้ที่สุดที่ๆ สมาชิกคนอื่นๆที่อยู่ห่างไกลจะใช้วิชาลับส่งร่างจำแลงมาเข้าร่วมแทนโดยจะมีการอัญเชิญรูปปั้นเทพอสูรให้ปรากฏขึ้นมาเพื่อสูบพลังดูดกลืนเอาสัตว์หางเข้าไป และมีข้อสังเกตว่าสมาชิกแสงอุษาจะยืนบนนิ้วของเทพอสูรตามตำแหน่งของแหวนที่ตนใส่ โดยมีการจับสัตว์หางมาผนึกไว้ตามลำดับ ส่วนร่างที่แท้จริงของเทพอสูรนั้นยังเป็นปริศนา (เชื่อกันว่าอาจจะเป็นอสูร เทงงู การาสุ ซึ่งเป็นเทงงู 1 ในสองตนในตำนานญี่ปุ่น) ดูเหมือนว่าพลังของสัตว์หางเมื่อรวบรวมได้ครบจะสามารถใช้ปลุกเทพอสูรได้ เพื่อจุดประสงค์บางอย่าง เช่นการก่อสงคราม
เบื้องหลังของแสงอุษา
อุจิวะ มาดาระ คือผู้ที่อยู่เบื้องหลังของแสงอุษาโดยไม่เปิดเผยตัว และมีสมาชิกเพียงบางคนเท่านั้นที่รู้ถึงการมีอยู่ของ อุจิวะ มาดาระ ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาในระดับที่สูงกว่าเพน แม้ภายหลังมาดาระ จะสวมรอยเป็นโทบิ เข้าร่วมกับองค์กร แต่แท้จริงเขาคือต้นตอ และผู้วางแผนการทั้งหมด รวมทั้งวางอุดมการณ์และเป้าหมายที่แท้จริงของการตั้งแสงอุษาขึ้นนั่นเอง บุคลิกที่แท้จริงของมาดาระดูจริงจังและเคร่งขรึมมาก ต่างจากเวลาที่แกล้งเป็นโทบิซึ่งดูเถลไถล ไม่เอาจริงเอาจัง และดูไม่ค่อยเก่งกาจ ต่างจากมาดาระโดยสิ้นเชิง แต่โทบิก็เก่งเพราะมีวิชา หายตัวและเอาพายใน10 วินาที
สมาชิกปัจจุบัน(ยังไม่ถึงศึกซาสึเกะถล่มโคโนฮะ)
สัตว์หาง คือ ปีศาจขนาดยักษ์ 9 ตัวที่มีพลังมหาศาล และถูกหมายตาโดยเหล่าแสงอุษา สัตว์หางทั้งหมดได้แก่
- ชูคาคุ หนึ่งหาง ( Ichibi No Shukaku) สัตว์หางรูปแบบแรคคูน ก่อนหน้าที่จะถูกจับเคยสิงอยู่ในร่างของ กาอาระ ซึ่งเป็น คาเซะคาเงะคนปัจจุบัน
- เนโกะมาตะ สองหาง ( Nibi no Nekomata) สัตว์หางรูปแบบแมว เคยสถิตอยู่ในร่างของ ยูกิโตะ นิอิ นินจาหญิงแห่งหมู่บ้านคุโมะงาคุเระ ก่อนจะถูกแสงอุษาแย่งชิงมา
- อิโซนาเดะ สามหาง สัตว์หางรูปร่างคล้ายตะพาบ (ในตำนานระบุว่าเป็นสัตว์คล้ายฉลามหรือเต่าผสมกุ้ง)
- โซโค สี่หาง สัตว์หางรูปแบบกอริลล่ายักษ์สีหาง ไม่เคยปรากฏออกมาชัดเจนแม้จะถูกแสงอุษาจับได้เป็นตัวแรกๆ
- โฮโก ห้าหาง สัตว์หางรูปแบบกวางผสมสุนัขจิ้งจอก
- ไรจู หกหาง สัตว์หางหน้าตาคล้ายตัววีเซิลเป็นเจ้าแห่งสายฟ้า
- คาคุ เจ็ดหาง สัตว์หางรูปร่างคลายตัวแมลงปอ มีเกาะเป็นเหล็ก
- แปดหาง สัตว์หางรูปแบบวัวกระทิงมีหางเป็นปลาหมึก ผนึกอยู่ในร่างของ คิลเลอร์ บี
- คิวบิ เก้าหาง (Kyūbi no Yōkō) สัตว์หางรูปแบบสุนัขจิ้งจอก ถูกผนึกอยู่ในร่างของ นารูโตะ เชื่อว่ามีพลังมากที่สุดในบรรดาสัตว์หาง
ออกครั้งแรกในมังงะตอนที่ : 138
ออกครั้งแรกในอนิเมตอนที่ : 80
ความหมายของชื่อ : พังพอน
หมู่บ้านลับ : หมู่บ้านโคโนฮะ (หมู่บ้านลับแห่งใบไม้)
อายุ : 21 ปี
วันเกิด : 9 มิถุนายน
กรุ๊ปเลือด : AB
ส่วนสูง : 178 cm
น้ำหนัก : 58 กิโล
ภารกิจที่ทำสำเร็จ : D - 52 , C - 152 , B - 134 , A - 0 , S - 1
ออกครั้งแรกในอนิเมตอนที่ : 80
ความหมายของชื่อ : พังพอน
หมู่บ้านลับ : หมู่บ้านโคโนฮะ (หมู่บ้านลับแห่งใบไม้)
อายุ : 21 ปี
วันเกิด : 9 มิถุนายน
กรุ๊ปเลือด : AB
ส่วนสูง : 178 cm
น้ำหนัก : 58 กิโล
ภารกิจที่ทำสำเร็จ : D - 52 , C - 152 , B - 134 , A - 0 , S - 1
อิทจี้ชอบกินดังโงะนะ และ ข้าวปั้นกับกะหล่ำปลี
งานอดิเรก ชอบเดินเข้าร้านขายขนม
งานอดิเรก ชอบเดินเข้าร้านขายขนม
สาเหตุ : เสียชีวิตในการปะทะต่อสู้ สถานะ : ยังไม่มีการแทนที่ คู่หูในอดีต : โฮชิงากิ คิซาเมะ
อุจิ! คุณใช้คำไม่สุภาพ สมาชิกอาจลงโทษโดยการ"ลด"คะแนนผู้นี้ได้ ! อิทาจิ) เป็นนินจาที่ถอนตัวจาก โคโนฮะคะกุเระ และมีคู่หูคือ โฮชิกาคิ คิซาเมะ โดยระหว่างที่เขายังอยู่ที่โคโนฮะ เขาเป็นนินจาที่มีพรสววรค์และพัฒนาจนกลายเป็นนินจาที่เก่งกาจอย่างรวดเร็ว และทำให้กลายเป็นคนที่เด่นและได้รับความสนใจจากคนในตระกูลเป็นอย่างมาก
อิทาจิ เดิมเป็นนินจาในหน่วยลับของ โคโนฮะงาคุเระ และมีความเป็นอัจฉริยะสูงมากได้เข้าหน่วยตั้งแต่อายุยังน้อย อิทาจิเกิดปัญหาขัดแย้งกับคนในตระกูลโดยเดิมที เขาถูกสงสัยว่าเป็นผู้สังหาร อุจิ! คุณใช้คำไม่สุภาพ สมาชิกอาจลงโทษโดยการ"ลด"คะแนนผู้นี้ได้ ! ชิซุย เพื่อนสนิทและเป็นญาติในตระกูลอุจิ! คุณใช้คำไม่สุภาพ สมาชิกอาจลงโทษโดยการ"ลด"คะแนนผู้นี้ได้ !ด้วยกัน เพื่อเบิกเนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผม และต้องสงสัยว่าเป็นฆาตกรผู้ฆ่าล้างตระกูล ทำให้ต้องถอนตัวออกจากหมู่บ้านไปเป็นนินจาถอนตัว และเข้าร่วมกับองค์กร แสงอุษาในที่สุด โดยมีเพียง ซาสึเกะ น้องชายแท้ๆเพียงคนเดียวที่รอดชีวิตจากการสังหารหมู่ในครั้งนั้น
แม้ว่าสถานะของเขาจะเป็นอาชญากรที่ต้องการตัวและฆาตกร อิทาจิก็ไม่ได้แสดงออกถึงความชื่นชอบในความรุนแรงหรือการต่อสู้ อิทาจิมักจะหลีกเลี่ยงการต่อสู้ และเลือกต่อสู้เท่าที่จำเป็นทำนั้น โดยหากหลีกเลี่ยงไม่ได้แล้วเขาก็จะจบมันอย่างรวดเร็วที่สุด อิทาจิมักจะคงลักษณะสงบนิ่งไม่แสดงออกแม้ในยามที่ต่อสู้ เขามักจะอยู่ในลักษณะตั้งรับและคอยสวนกลับการโจมตีเสมอ อิทาจิสามารถจับการเคลื่อนไหวของศัตรูด้วยเนตรวงแหวน(เช่นเดียวกับผู้ใช้เนตรคนอื่นๆ) โดยใช้มันเพื่อประเมินท่าทางของคู่ต่อสู้และโต้ตอบอย่างรวดเร็วด้วยเนตรวงแหวน กระจกเงาหมื่นบุปผาซึ่งเป็นวิชาเนตรพิเศษของเขา และด้วยเนตรพิเศษนี้ยังทำให้อิทาจิสามารถใช้วิชาเนตรพิเศษอื่นๆ เช่น อ่านจันทรา วิชาคาถาลวงตาที่สร้างเหตุการณ์จำแลงแต่สามารถสร้างความเสียหายทางร่างกายและจิตใจของศัตรูได้, เทวีสุริยา วิชาทรงพลังที่เรียกเปลวเพลิงสีดำที่ร้อนกว่าดวงอาทิตย์ 10 เท่าและสามารถเผาผลาญได้ทุกสิ่งตามทิศทางที่ดวงตามองเห็น และจะเผาผลาญไม่หยุดจนกว่าเป้าหมายจะดับสิ้น และสึซาโนะโอะ วิชาลับขั้นสูงของเนตรพิเศษที่จะอัญเชิญดาบและโล่ของเทพเจ้ามาใช้ในการต่อสู้ด้วย อิทาจิมีความชานาญในพื้นฐานวิชาลวงตาเป็นอย่างดี และยังสามารถหลอกคู่ต่อสู้ด้วยการสบตาเท่านั้น นอกจากนี้เขายังสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็วมาก โดยเฉพาะการทำสัญลักษณ์มือเพื่อสร้าง"อิน" และใช้วิชานินจาได้โดยศัตรูไม่ทันระวังตัว ปัจจุบันคาดว่าน่าจะเสียชีวิตไปแล้วหลังจากการต่อสู้กับซาสึเกะ และได้ถ่ายทอดวิชาเนตรกระจกเงาหมื่นบุปผมให้กับซาสึเกะไว้ โดยวิชาเนตรนี้จะทำงานอัตโนมัติกลายเป็นเทวีสุริยาทุกครั้งเมื่อสบตากับเนตรวงแหวนของโทบิ (มาดาระ) เพื่อป้องกันมาดาระไม่ให้เข้าใกล้ซาสึเกะ
หลังจากการเสียชีวิตของอิทาจิ ซาสึเกะได้ฟังการเล่าเรื่องของมาดาระเกี่ยวกับอิทาจิว่า แท้จริงการสังหารหมู่ครั้งนั้นเกิดจากการที่อิทาจิต้องการปกป้องหมู่บ้านโคโนฮะ เพราะตระกูลอุจิ! คุณใช้คำไม่สุภาพ สมาชิกอาจลงโทษโดยการ"ลด"คะแนนผู้นี้ได้ !คิดจะก่อสงครามเพื่อปฏิวัติรัฐประหารยึดครองอำนาจในหมู่บ้าน อิทาจิต่อสู้โดยได้รับความช่วยเหลือจากมาดาระเพื่อหยุดยั้งคนในตระกูล และปกปิดเรื่องทั้งหมดเป็นความลับพร้อมถอนตัวออกจากหมู่บ้านและทำสัญญากับโฮคาเงะรุ่นที่3 ให้ช่วยดูแลซาสึเกะ ซึ่งเรื่องทั้งหมดมีเหตุมาจากความบาดหมางของตระกูลอุจิ! คุณใช้คำไม่สุภาพ สมาชิกอาจลงโทษโดยการ"ลด"คะแนนผู้นี้ได้ ! กับโฮคาเงะรุ่นที่1 ผู้นำตระกูลเซ็นจูที่มาดาระเล่าว่าต้องการทำลายตระกูลอุจิ! คุณใช้คำไม่สุภาพ สมาชิกอาจลงโทษโดยการ"ลด"คะแนนผู้นี้ได้ ! ซึ่งยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าสิ่งที่มาดาระเล่านั้นจริงหรือไม่ แต่เชื่อได้ว่ามาดาระเล่าให้ซาสึเกะฟังเพื่อโน้มน้าวซาสึเกะมาเป็นพวกและร่วมกันก่อสงครามกับโคโนฮะ
อุจิ! คุณใช้คำไม่สุภาพ สมาชิกอาจลงโทษโดยการ"ลด"คะแนนผู้นี้ได้ ! อิทาจิ) เป็นนินจาที่ถอนตัวจาก โคโนฮะคะกุเระ และมีคู่หูคือ โฮชิกาคิ คิซาเมะ โดยระหว่างที่เขายังอยู่ที่โคโนฮะ เขาเป็นนินจาที่มีพรสววรค์และพัฒนาจนกลายเป็นนินจาที่เก่งกาจอย่างรวดเร็ว และทำให้กลายเป็นคนที่เด่นและได้รับความสนใจจากคนในตระกูลเป็นอย่างมาก
อิทาจิ เดิมเป็นนินจาในหน่วยลับของ โคโนฮะงาคุเระ และมีความเป็นอัจฉริยะสูงมากได้เข้าหน่วยตั้งแต่อายุยังน้อย อิทาจิเกิดปัญหาขัดแย้งกับคนในตระกูลโดยเดิมที เขาถูกสงสัยว่าเป็นผู้สังหาร อุจิ! คุณใช้คำไม่สุภาพ สมาชิกอาจลงโทษโดยการ"ลด"คะแนนผู้นี้ได้ ! ชิซุย เพื่อนสนิทและเป็นญาติในตระกูลอุจิ! คุณใช้คำไม่สุภาพ สมาชิกอาจลงโทษโดยการ"ลด"คะแนนผู้นี้ได้ !ด้วยกัน เพื่อเบิกเนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผม และต้องสงสัยว่าเป็นฆาตกรผู้ฆ่าล้างตระกูล ทำให้ต้องถอนตัวออกจากหมู่บ้านไปเป็นนินจาถอนตัว และเข้าร่วมกับองค์กร แสงอุษาในที่สุด โดยมีเพียง ซาสึเกะ น้องชายแท้ๆเพียงคนเดียวที่รอดชีวิตจากการสังหารหมู่ในครั้งนั้น
แม้ว่าสถานะของเขาจะเป็นอาชญากรที่ต้องการตัวและฆาตกร อิทาจิก็ไม่ได้แสดงออกถึงความชื่นชอบในความรุนแรงหรือการต่อสู้ อิทาจิมักจะหลีกเลี่ยงการต่อสู้ และเลือกต่อสู้เท่าที่จำเป็นทำนั้น โดยหากหลีกเลี่ยงไม่ได้แล้วเขาก็จะจบมันอย่างรวดเร็วที่สุด อิทาจิมักจะคงลักษณะสงบนิ่งไม่แสดงออกแม้ในยามที่ต่อสู้ เขามักจะอยู่ในลักษณะตั้งรับและคอยสวนกลับการโจมตีเสมอ อิทาจิสามารถจับการเคลื่อนไหวของศัตรูด้วยเนตรวงแหวน(เช่นเดียวกับผู้ใช้เนตรคนอื่นๆ) โดยใช้มันเพื่อประเมินท่าทางของคู่ต่อสู้และโต้ตอบอย่างรวดเร็วด้วยเนตรวงแหวน กระจกเงาหมื่นบุปผาซึ่งเป็นวิชาเนตรพิเศษของเขา และด้วยเนตรพิเศษนี้ยังทำให้อิทาจิสามารถใช้วิชาเนตรพิเศษอื่นๆ เช่น อ่านจันทรา วิชาคาถาลวงตาที่สร้างเหตุการณ์จำแลงแต่สามารถสร้างความเสียหายทางร่างกายและจิตใจของศัตรูได้, เทวีสุริยา วิชาทรงพลังที่เรียกเปลวเพลิงสีดำที่ร้อนกว่าดวงอาทิตย์ 10 เท่าและสามารถเผาผลาญได้ทุกสิ่งตามทิศทางที่ดวงตามองเห็น และจะเผาผลาญไม่หยุดจนกว่าเป้าหมายจะดับสิ้น และสึซาโนะโอะ วิชาลับขั้นสูงของเนตรพิเศษที่จะอัญเชิญดาบและโล่ของเทพเจ้ามาใช้ในการต่อสู้ด้วย อิทาจิมีความชานาญในพื้นฐานวิชาลวงตาเป็นอย่างดี และยังสามารถหลอกคู่ต่อสู้ด้วยการสบตาเท่านั้น นอกจากนี้เขายังสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็วมาก โดยเฉพาะการทำสัญลักษณ์มือเพื่อสร้าง"อิน" และใช้วิชานินจาได้โดยศัตรูไม่ทันระวังตัว ปัจจุบันคาดว่าน่าจะเสียชีวิตไปแล้วหลังจากการต่อสู้กับซาสึเกะ และได้ถ่ายทอดวิชาเนตรกระจกเงาหมื่นบุปผมให้กับซาสึเกะไว้ โดยวิชาเนตรนี้จะทำงานอัตโนมัติกลายเป็นเทวีสุริยาทุกครั้งเมื่อสบตากับเนตรวงแหวนของโทบิ (มาดาระ) เพื่อป้องกันมาดาระไม่ให้เข้าใกล้ซาสึเกะ
หลังจากการเสียชีวิตของอิทาจิ ซาสึเกะได้ฟังการเล่าเรื่องของมาดาระเกี่ยวกับอิทาจิว่า แท้จริงการสังหารหมู่ครั้งนั้นเกิดจากการที่อิทาจิต้องการปกป้องหมู่บ้านโคโนฮะ เพราะตระกูลอุจิ! คุณใช้คำไม่สุภาพ สมาชิกอาจลงโทษโดยการ"ลด"คะแนนผู้นี้ได้ !คิดจะก่อสงครามเพื่อปฏิวัติรัฐประหารยึดครองอำนาจในหมู่บ้าน อิทาจิต่อสู้โดยได้รับความช่วยเหลือจากมาดาระเพื่อหยุดยั้งคนในตระกูล และปกปิดเรื่องทั้งหมดเป็นความลับพร้อมถอนตัวออกจากหมู่บ้านและทำสัญญากับโฮคาเงะรุ่นที่3 ให้ช่วยดูแลซาสึเกะ ซึ่งเรื่องทั้งหมดมีเหตุมาจากความบาดหมางของตระกูลอุจิ! คุณใช้คำไม่สุภาพ สมาชิกอาจลงโทษโดยการ"ลด"คะแนนผู้นี้ได้ ! กับโฮคาเงะรุ่นที่1 ผู้นำตระกูลเซ็นจูที่มาดาระเล่าว่าต้องการทำลายตระกูลอุจิ! คุณใช้คำไม่สุภาพ สมาชิกอาจลงโทษโดยการ"ลด"คะแนนผู้นี้ได้ ! ซึ่งยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าสิ่งที่มาดาระเล่านั้นจริงหรือไม่ แต่เชื่อได้ว่ามาดาระเล่าให้ซาสึเกะฟังเพื่อโน้มน้าวซาสึเกะมาเป็นพวกและร่วมกันก่อสงครามกับโคโนฮะ
>>คิซาเมะ<<
อกครั้งแรกในมังงะตอนที่ : 139
ออกครั้งแรกในอนิเมตอนที่ : 80
ความหมายของชื่อ : ปีศาจปลาฉลาม เข้าใจละทำไมหน้าเป็นงี้ [= ="]
หมู่บ้านลับ : หมู่บ้านคิริ (หมู่บ้านลับแห่งหมอก)
อายุ : 32 ปี
สิ่งที่โดดเด่น : ถืออาวุธเป็นดาบขนาดยักษ์ มีผิวซีด และตาเหมือนปลาฉลาม
วันเกิด : 18 มีนาคม
กรุ๊ปเลือด : AB
ส่วนสูง : 195 cm
น้ำหนัก : 83.1 กิโล
ภารกิจที่ทำสำเร็จ : D - 3 , C - 68 , B - 154 , A - 78 , S - 29
>>เพน<<
สมาชิกปัจจุบัน คือสมาชิกระดับสูงของแสงอุษาที่สวมแหวนและแต่งเครื่องแบบเสื้อคลุม ออกปฏิบัติภารกิจลับสำคัญ
และเป็นอันตรายอย่างสูง
เพน
คู่หู : โคนัน เพน
หัวหน้าของแสงอุษา วิชาลับของเขาคือการมีร่าง 6 ร่างที่ใช้จิตเดียวกัน รู้จักกันในชื่อ เพน 6วิถี ลักษณะที่เหมือนกันคือผมสีส้ม มีการเจาะจำนวนมากตามร่างกาย และทุกร่างมีเนตรสังสาระ เนตรสังสาระ เชื่อกันว่าเป็นวิชาเนตรดั้งเดิมที่ถูกค้นพบ ในโลกนินจาเป็นวิชาแรก มีรูปร่างเป็นวงกลมซ้อนกันหลายชั้นในดวงตา มีความสามารถช่วยให้ผู้ครอบครองสามารถใช้วิชา นินจาได้ทุกชนิดและควบคุมจักระได้ทั้งหมด 6 ชนิด และยังทำให้ร่างทั้ง 6 ใช้ทัศนะวิสัยร่วมกันในการมอง ทำให้ร่วงทั้ง 6 สามารถร่วมมือกันโจมตีและป้องกันการโจมตีจากศัตรู โดยร่างแต่ละร่างของเพนในปัจจุบัน ล้วนเป็นนินจาที่จิไรยะเคย พบระหว่างที่เขาเดินทางไปยังที่ต่างๆ ตัวอย่างความสามารถของแต่ละร่าง เช่น ร่างแรกที่เขาพบคือยาฮิโกะ ความสามารถที่เพนใช้คือสามารถควบคุมฝนและสามารถตรวจจับการเคลื่อนไหวและระดับจักระของผู้คนที่เดินทางเข้ามา ร่างที่มีผมม้าขนาดใหญ่สามารถใช้คาถาสัตว์อัญเชิญได้หลากหลายชนิดเกินกว่านินจาปกติ ร่างอ้วนสามารถเลียนแบบวิชานินจา ได้จากการตั้งรับ ร่างหัวโล้นสามารถยิงแขนซ้ายของเขาได้เหมือนจรวด เป็นต้น เดิมทีผู้ครอบครองเนตรสังสาระคนแรกที่ จิไรยะพบคือนางาโตะ เด็กกำพร้าที่ถูกทิ้งจากหมู่บ้านอาเมะคะกุเระ ที่ระเห็จจากสงครามเช่นเดียวกับยาฮิโกะและโคนัน โดยพวกเขาพบกับจิไรยะและทีม(ได้แก่โอโรจิมารุและ ซึนาเดะ)หลังทีมจิไรยะเสร็จภารกิจและเดินทางกลับโคโนฮะ จิไรยะได้ดูแลและสอนวิชานินจาพื้นฐานให้พวกเขาเพื่อเอาตัวรอด ก่อนที่จะย้อนกลับไปยังหมู่บ้านโคโนฮะ เหตุการณ์ที่ เชื่อว่าเกิดชึ้นหลังจากนั้นไม่นานคือ นางาโตะเริ่มเชื่อว่าวัยเด็กที่ทรมานของเขาได้สอนเขา และเริ่มมองเห็นตัวเองเป็น พระเจ้าที่สอนให้โลกรู้จักการต่อสู้อย่างไร้ความหมาย และหลังจากนั้นก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เพนปรากฏตัวในอาเมะคะกุเระ และเริ่มสงครามกลางเมืองกับรัฐบาลในตอนนั้น เพนยุติสงครามโดยการสังหารผู้นำหมู่บ้าน ฮันโซ และมีการปฏิบัติภารกิจอย่างเด็ดขาดเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีผู้ที่จะกลับมาแก้แค้นเหลืออยู่ในหมู่บ้าน เพนฆ่าครอบครัว, เพื่อน, และคนที่เกี่ยวข้องทั้งหมดของฮันโซ และสถาปนาตัวเองเป็นพระเจ้า โดยมีนินจาจำนวนมากหันมาจงรักภักดีต่อเพน และทำสัญลักษณ์ขีดฆ่าที่กระบังหน้าเข้าร่วมเป็นแสงอุษาโดยยังคงอาศัยอยู่ในหมู่บ้านและยินดีปฏิบัติตามคำสั่งของเพนทุกประการ โดยเพนใช้หมู่บ้านเป็นฐานทัพของเขาในการปฏิบัติงานของแสงอุษา ซึ่งแม้ว่าเขาจะสั่งการให้กับสมาชิกคนอื่นๆ โดยตรง และมีอำนาจเหนือพวกสมาชิกอื่นในฐานะหัวหน้า แต่โดยพฤติกรรมแล้วเพนก็ได้รับคำสั่งมาจากโทบิ(ในนามแห่ง อุจิ! คุณใช้คำไม่สุภาพ สมาชิกอาจลงโทษโดยการ"ลด"คะแนนผู้นี้ได้ ! มาดาระ) อีกทอดหนึ่ง คิซาเมะ คู่หู : อุจิ! คุณใช้คำไม่สุภาพ สมาชิกอาจ ลงโทษโดยการ"ลด"คะแนนผู้นี้ได้ ! อิทาจิ (เสียชีวิต) โฮชิงากิ คิซาเมะ คือนินจาที่ถอนตัวจาก คิริคะกุเระ มีลักษณะ นิสัยชอบที่จะต่อสู้อย่างไม่หวั่นเกรงเสมอในขณะที่ อิทาจิคู่หูของเขากลับเลือกที่จะสู้เฉพาะที่จำเป็นเท่านั้น คิซาเมะ ทำงานกับอิทาจิได้เข้าขากันเป็นอย่างดีเมื่อเปรียบเทียบกับคู่หูทีมอื่นๆในแสงอุษา เขามีความเคารพและยินดีทำสิ่งที่อิทาจิบอกให้ทำทันทีและมักจะเป็นห่วงในสุขภาพของอิทาจิเสมอ อดีตแคว้นของเขาคือ มิซึโนะคุนิ (ดินแดนแห่งน้ำ) ซึ่งควานหาตัวเขาอย่างหนักเพราะว่า คิซาเมะเคยวางแผนที่จะล้มล้างอำนาจของรัฐบาล และมีส่วนในเหตุการณ์สังหารหมู่ของแคว้น เดิมที คิซาเมะ ทำงานให้คิริคะกุเระ ในฐานะสมาชิกกลุ่ม เจ็ดนักดาบแห่งสายหมอก ซึ่งเป็นกลุ่มแห่งนินจาที่ใช้อาวุธขนาดยักษ์ในการต่อสู้ อาวุธของคิซาเมะมีชื่อว่า ซาเมะฮาดะ ( "หนังฉลาม") เป็นดาบที่ปกคลุมด้วยเกล็ดที่ใช้โกนผิวหนังแทนที่การตัดและมันสามารถดูดจักระได้ โดยดาบซาเมะฮาดะจะยอมรับ ให้คิซาเมะถือเท่านั้น ถ้ามีคนอื่นๆ พยายามที่จะถือมัน หนามแหลมจะแทงออกมาจากด้ามจับและมันจะกลับไปหาคิซาเมะทันที นิสัยของเขาซึ่งถูกตั้งข้อสังเกตว่าเป็นนิสัยของพวกเจ็ดนักดาบแห่งสายหมอกคือชื่นชอบการตัดส่วนต่างๆ ของคู่ต่อสู้ เช่นกรณี ที่คิซาเมะบอกว่าการตัดขาของอุซึมากิ นารุโตะจะทำให้เขาแบกได้ง่ายขึ้น คิซาเมะมีรูปร่างหน้าตาคล้ายฉลาม มีผิวสีน้ำเงินทั้งตัว ตาสีขาวคู่เล็ก ใบหน้ามีครีบอยู่ด้วย และฟันรูปสามเหลี่ยม แม้แต่ชื่อของเขา คิซาเมะ แปลว่า ฉลามปีศาจ รูปร่างที่คล้ายฉลามของเขายังสัมพันธ์ต่อความสามารถที่เขาใช้ในการต่อสู้ด้วย เช่น เขาจะก่อให้น้ำกลายเป็นร่างฉลามเพื่อ ทำการโจมตีคู่ต่อสู้ ถ้าหากไม่มีน้ำในที่ๆ เขาต่อสู้ คิซาเมะสามารถใช้ คาถาน้ำ คลื่นน้ำระเบิดจู่โจม) เพื่อสร้างทะเลสาบเพื่อใช้ ในการโจมตี คิซาเมะยังมีจักระจำนวนมหาศาล และมีมากที่สุดในบรรดาสมาชิกของแสงอุษา เขามักจะใช้พลังแค่ 30% ในการต่อสู้ ซึ่งก็เทียบเท่ากับพลังสถิตของจิ้งจอกเก้าหางของนารุโตะในตอนที่ใช้ระหว่างสอบจูนิน
>>โคนัน<<
ชื่อ : โคนัน
อายุ : N/A
วันเกิด : N/A
ส่วนสูง : N/A
น้ำหนัก : N/A
ปรากฏตัวครั้งแรก Anime : 135
ปรากฏตัวครั้งแรก Manga : 363
หมู่บ้าน : อาเมะ
ความหมายของชื่อ : แยกได้เป็นสองคำ คือ โค = เล็ก และ นัน = ใต้
ตัวละครที่เกี่ยวข้อง : เพน, นางาโตะ, ยาฮิโกะ, จิไรยะ
จำนวนภารกิจที่ปฏิบัติ : -
ข้อมูลเกี่ยวกับการสอบเกะนิน จูนิน : -
ข้อมูลตัวละคร : โคนัน เป็นคุโนะอิจิเพียงหนึ่งเดียวในกลุ่มแสงอุษา มีเอกลักษณ์ที่ดอกไม้ประดับบนผม และมักจะเห็นเธออยู่ข้างเพนเป็นประจำ อดีต ของโคนัน เธอและเพื่อนอีกสองคน คือ นางาโตะและยาฮิโกะ เป็นเด็กกำพร้าที่สูญเสียครอบครัวไปในสงครามระหว่างแคว้นในหมู่บ้าน อาเมะงา คุเระ และในอดีตนั้นพวกเธอทั้งสามก็ได้พบกับ สามนินจาแห่งโคโนะฮะ ซึ่งหลังจากพบกัน จิไรยะก็ตัดสินใจที่จะดูแลเด็กๆ ทั้งสามคน และรับเธอกับเพื่อนเป็นศิษย์ชั่วคราว เพื่อให้พวกเขาเข้มแข็งพอที่จะดูแลตัวเองได้ พวกเขาอยู่ด้วยกันเป็นเวลาสามปี จนถึงวันที่จิไรยะมั่นใจว่าเด็กๆเติบโตขึ้นจนดูแลตัวเองได้แล้ว เขาก็จากมา พร้อมกับย้ำให้เด็กๆรู้ว่า พวกเขาได้เติบโตขึ้นแล้ว และต่อไปในภายหน้าก็ต้องใช้ความสามารถของตัวเองเปลี่ยนแปลงหมู่บ้านและโลกใบนี้ด้วยตัวเองให้ได้ อย่างไรก็ตาม ตลอดเวลาที่ผ่านมา เธอและเพื่อนถูกเข้าใจว่าตายในสงครามไปแล้ว สำหรับบทบาทในองค์กรแสงอุษา โคนันถือได้ว่าเป็นคนที่มีความสำคัญในฐานะ คู่หูและผู้ช่วยส่วนตัวของหัวหน้า เธอเป็นคนเดียวที่ได้อยู่ข้างกายเขาตลอดเวลาและไม่เคยเห็นเธอออกไปรับภารกิจข้างนอก เหมือนสมาชิกคนอื่นเลย รวมทั้ง โคนันเป็นคนเดียวที่ได้รับอนุญาตให้เรียกชื่อ เพน ห้วนๆได้ด้วย โค นันมีความสามารถในการใช้กระดาษ และ สามารถเปลี่ยนตัวเองเป็นกระดาษ ดูเหมือนจะเป็นความสามารถที่มาจากความชอบส่วนตัว ของเธอในการพับกระดาษ (origami) เมื่อเธอเปลี่ยนตัวเองเป็นกระดาษแล้ว ก็จะสามารถควบคุมได้แบบแยกเป็นเดียว หรือ รวมกระดาษเหล่านั้นเข้าเป็นรูปร่างต่างๆก็ได้ เช่น ผีเสื้อ ดอกไม้ จรวดกระดาษ หรือ อาวุธโจมตี เป็นต้น นอกจากนี้ เธอยังเคยสร้างปีกทั้งสองข้างจากกระดาษด้วย ซึ่งเมื่อเธอเข้าสู่รูปร่างแบบนี้แล้วก็จะถูกเรียกว่า เทพธิดาผู้ส่งสาร ซึ่งเป็นชื่อที่รู้จักทั่วไปในหมู่บ้านอาเมะงาคุเระ เนื่องจากเป็นรูปร่างที่จะปรากฏในฐานะผู้ส่งสารของเพน ที่เปรียบเสมือนพระเจ้านั่นเอง อย่างไรก็ตามวิชาของเธอก็มีจุดอ่อนตรงที่ จะถูกน้ำหรือของเหลวไม่ได้ เพราะจะทำให้กระดาษติดกันและสูญเสียความแข็งในการจับยึดตัวเองเข้าด้วยกัน
>>ฮิดัน<<
ฮิดัน
ออกครั้งแรกในมังงะตอนที่ : 312
ออกครั้งแรกในอนิเมตอนที่ : ชิปปูเดน ตอนที่ 71
ความหมายของชื่อ : ...
หมู่บ้านลับ : หมู่บ้านยู (หมู่บ้านลับแห่งบ่อน้ำพุร้อน) หรือว่าหมู่บ้านอนเซ็นไม่แน่ใจฮับ
สิ่งที่โดดเด่น : ใช้เคียวด้ามยาวขนาดใหญ่
วันเกิด : 5 เมษายน
กรุ๊ปเลือด : B
ส่วนสูง : 177.1 cm
น้ำหนัก : 56.8 กิโล
สาเหตุ : เสียชีวิตในการปะทะต่อสู้ระหว่างปฏิบัติภารกิจ สถานะ : ยังไม่มีการแทนที่ คู่หูในอดีต : คาคุสึ
ฮิดัน คู่หูปากดีของคาคุสึ ฮิดันเป็นสาวกของศาสนาจาชิน (เทพปีศาจ) เป็นศาสนาที่บูชาเทพเจ้าซึ่งมีชื่อเดียวกับชื่อลัทธิ และเชื่อว่าทุกสิ่งจะอยู่ภายใต้การพิพากษาลงทัณฑ์ของเทพปีศาจ โดย ฮิดันจะต้องภาวนาต่อจาชินทุกครั้งก่อนที่จะเริ่มการต่อสู้ เพื่อขอพรสำหรับการสังหารที่ลุล่วงหรือขอการประทานอภัยหากเขาไม่ได้รับอนุญาตให้ฆ่าคู่ต่อสู้ โดยหลังจากการต่อสู้ ฮิดันจะทำ
พิธีกรรมต่ออีกเป็ นเวลา 30 นาทีตามความเชื่อทางศาสนาและจบด้วยการแทงตัวเองที่หน้าอกขณะที่นอนอยู่กับพื้น โดยเขาจะได้รับการมีชีวิตอมตะเป็นการตอบแทน ฮิดันสามารถรอดชีวิตจากการบาดเจ็บสาหัสได้แม้กระทั่งถูกตัดหัวก็ตาม (แต่ถึงจะรอดชีวิตก็ต้องมีการเย็บเชื่อมต่อมันกลับเข้าหากันเพื่อกลับมาใช้ร่างกายตามปกติ) โดยคาคุสึจะใช้ความสามารถในการช่วยต่อชิ้นส่วนที่จาดจากกันให้และทำให้บาดแผลของเขารักษาได้ทันเวลา การที่ฮิดันมีวีตอมตะไม่ยอมตายนั้นก็เป็นประโยชน์ต่อคาคุสึเช่นกัน เพราะคาคุสึนั้นมักจะอารมณ์ไม่มั่นคงและอาจสังหารคู่หูได้โดยง่าย แต่กับฮิดันเขาสามารถโจมตีฮิดันได้เท่าที่เขาต้องการโดยไม่ต้องกังวลว่าคู่หูจะตาย ถึงแม้ว่าทั้งคู่จะไม่ชอบทำงานร่วมกันและมีงกันเสมอ แต่จากความสามารถเหล่านี้ก็ทำให้พวกเขากลายเป็นทีมในอุดมคติเลยทีเดียว
ระหว่างการต่อสู้ ฮิดันจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ศัตรูเกิดบาดแผลเลือดไหนและหาทางสัมผัสกับเลือดนั้น(แม้จะเพียงน้อยนิดก็ตาม) หลังจากนั้นเขาจะวาดสัญลักษณ์บนพื้นเพื่อใช้วิชาลับในการเชื่อมต่อร่างกายของเขาเข้ากับศัตรู โดยวิชานี้ ฮิดันจะจำแลงกายคล้ายกับ ยมทูตและ ร่างกายของตัวเขาเองจะมีความสามารถคล้ายตุ๊กตาวูดู(ตุ๊กตาสาปแช่ง) ทำให้การโจมตีทุกๆ อย่างที่เกิดขึ้นกับร่างกายของฮิดัน ไปส่งผลบาด เจ็บที่ศํตรูแทน ฮิดันสนุกนานกับการโจมตีร่างกายตัวเองโดยไม่บาดเจ็บและส่งผลไปที่ศํตรูแทน และมักจะจมลงด้วยการแทงที่หัวใจ ของตัวเอง เพื่อสังหารศัตรู โดยวิชานินจานี้จะถูกทำลายถ้าหากฮิดันเคลื่อนที่ออกจากสัญลักษณ์ที่เขาวาดขึ้นบนพื้นและจะกลับมาใช้ได้อีกครั้งเมื่อกลับเข้า ไปอยู่ในเขต ของสัญลักษณ์เท่านั้น ชิกามารุคิดหาวิธีต่อกรกับวิชานี้หลังจากที่ฮิดันใช้มันฆ่า ซารุโทบิ อาสึมะ อาจารย์ของเขา และสุดท้ายฮิดันก็ติดกับแผนการที่ชิกามารุวางหมวากมาเป็นอย่างดี และถูกนำหัวไปฝังไว้ในหลุมลึกใต้ดินและปิดผนึกไว้ด้วยก้อนหิน ขนาดใหญ่ ภายในอาณาเขตดูแลของตระกูลนารา แม้จะไม่สามารถระบุได้ว่าเขาตายหรือไม่ แต่ก็ทำให้เขาสิ้นสภาพการเป็นสมาชิก ของแสงอุษาไป
ออกครั้งแรกในอนิเมตอนที่ : ชิปปูเดน ตอนที่ 71
ความหมายของชื่อ : ...
หมู่บ้านลับ : หมู่บ้านยู (หมู่บ้านลับแห่งบ่อน้ำพุร้อน) หรือว่าหมู่บ้านอนเซ็นไม่แน่ใจฮับ
สิ่งที่โดดเด่น : ใช้เคียวด้ามยาวขนาดใหญ่
วันเกิด : 5 เมษายน
กรุ๊ปเลือด : B
ส่วนสูง : 177.1 cm
น้ำหนัก : 56.8 กิโล
สาเหตุ : เสียชีวิตในการปะทะต่อสู้ระหว่างปฏิบัติภารกิจ สถานะ : ยังไม่มีการแทนที่ คู่หูในอดีต : คาคุสึ
ฮิดัน คู่หูปากดีของคาคุสึ ฮิดันเป็นสาวกของศาสนาจาชิน (เทพปีศาจ) เป็นศาสนาที่บูชาเทพเจ้าซึ่งมีชื่อเดียวกับชื่อลัทธิ และเชื่อว่าทุกสิ่งจะอยู่ภายใต้การพิพากษาลงทัณฑ์ของเทพปีศาจ โดย ฮิดันจะต้องภาวนาต่อจาชินทุกครั้งก่อนที่จะเริ่มการต่อสู้ เพื่อขอพรสำหรับการสังหารที่ลุล่วงหรือขอการประทานอภัยหากเขาไม่ได้รับอนุญาตให้ฆ่าคู่ต่อสู้ โดยหลังจากการต่อสู้ ฮิดันจะทำ
พิธีกรรมต่ออีกเป็ นเวลา 30 นาทีตามความเชื่อทางศาสนาและจบด้วยการแทงตัวเองที่หน้าอกขณะที่นอนอยู่กับพื้น โดยเขาจะได้รับการมีชีวิตอมตะเป็นการตอบแทน ฮิดันสามารถรอดชีวิตจากการบาดเจ็บสาหัสได้แม้กระทั่งถูกตัดหัวก็ตาม (แต่ถึงจะรอดชีวิตก็ต้องมีการเย็บเชื่อมต่อมันกลับเข้าหากันเพื่อกลับมาใช้ร่างกายตามปกติ) โดยคาคุสึจะใช้ความสามารถในการช่วยต่อชิ้นส่วนที่จาดจากกันให้และทำให้บาดแผลของเขารักษาได้ทันเวลา การที่ฮิดันมีวีตอมตะไม่ยอมตายนั้นก็เป็นประโยชน์ต่อคาคุสึเช่นกัน เพราะคาคุสึนั้นมักจะอารมณ์ไม่มั่นคงและอาจสังหารคู่หูได้โดยง่าย แต่กับฮิดันเขาสามารถโจมตีฮิดันได้เท่าที่เขาต้องการโดยไม่ต้องกังวลว่าคู่หูจะตาย ถึงแม้ว่าทั้งคู่จะไม่ชอบทำงานร่วมกันและมีงกันเสมอ แต่จากความสามารถเหล่านี้ก็ทำให้พวกเขากลายเป็นทีมในอุดมคติเลยทีเดียว
ระหว่างการต่อสู้ ฮิดันจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ศัตรูเกิดบาดแผลเลือดไหนและหาทางสัมผัสกับเลือดนั้น(แม้จะเพียงน้อยนิดก็ตาม) หลังจากนั้นเขาจะวาดสัญลักษณ์บนพื้นเพื่อใช้วิชาลับในการเชื่อมต่อร่างกายของเขาเข้ากับศัตรู โดยวิชานี้ ฮิดันจะจำแลงกายคล้ายกับ ยมทูตและ ร่างกายของตัวเขาเองจะมีความสามารถคล้ายตุ๊กตาวูดู(ตุ๊กตาสาปแช่ง) ทำให้การโจมตีทุกๆ อย่างที่เกิดขึ้นกับร่างกายของฮิดัน ไปส่งผลบาด เจ็บที่ศํตรูแทน ฮิดันสนุกนานกับการโจมตีร่างกายตัวเองโดยไม่บาดเจ็บและส่งผลไปที่ศํตรูแทน และมักจะจมลงด้วยการแทงที่หัวใจ ของตัวเอง เพื่อสังหารศัตรู โดยวิชานินจานี้จะถูกทำลายถ้าหากฮิดันเคลื่อนที่ออกจากสัญลักษณ์ที่เขาวาดขึ้นบนพื้นและจะกลับมาใช้ได้อีกครั้งเมื่อกลับเข้า ไปอยู่ในเขต ของสัญลักษณ์เท่านั้น ชิกามารุคิดหาวิธีต่อกรกับวิชานี้หลังจากที่ฮิดันใช้มันฆ่า ซารุโทบิ อาสึมะ อาจารย์ของเขา และสุดท้ายฮิดันก็ติดกับแผนการที่ชิกามารุวางหมวากมาเป็นอย่างดี และถูกนำหัวไปฝังไว้ในหลุมลึกใต้ดินและปิดผนึกไว้ด้วยก้อนหิน ขนาดใหญ่ ภายในอาณาเขตดูแลของตระกูลนารา แม้จะไม่สามารถระบุได้ว่าเขาตายหรือไม่ แต่ก็ทำให้เขาสิ้นสภาพการเป็นสมาชิก ของแสงอุษาไป
>>โทบิ<<
นับตั้งแต่โทบิปรากฏตัวครั้งแรก ก็มีการคาดเดาว่าเค้าคนนี้คือคนในตระกูลอุจิวะ และในที่สุดความจริงก็ได้เปิดเผยแล้วว่าโทบิเป็นอุจิวะ จริงๆ เพียงโทบิเป็นใครในตระกูลอุจิวะ เท่านั้น
-เป็น อุจิวะ โอบิโตะ คนที่ให้เนตรวงแหวนกับ ฮาตาเกะคาคาชิI
-เป็น อุจิวะ มาดาระ ผู้น่าหวาดหวั่นที่แม้แต่ จิ้งจอกเก้าหางยังรู้จัก เพราะ มีคนที่อ่านภาษาญี่ปุ่นออก อ่านว่ามาดาระ
-เป็น อุจิวะ คนอื่น ที่เหลือรอดจากฆาตรกรรมหมู่ เพราะ...
-เป็น อุจิวะ โอบิโตะ +มาดาระ ทั้งสองคน ที่รวมร่างกันแบบเดียวกับที่ คาบูโตะโดนโอโรจิมารุสิงสู่ เพราะ ขนาด คนอื่นยังมีหลายสิ่งมีชีวิตในตัวได้เลย ทำไมตระกูลอัจฉิริยะ ถึงจะมีมั่งไม่ได้
-เป็น อุจิวะ มาดาระ ผู้น่าหวาดหวั่นที่แม้แต่ จิ้งจอกเก้าหางยังรู้จัก เพราะ มีคนที่อ่านภาษาญี่ปุ่นออก อ่านว่ามาดาระ
-เป็น อุจิวะ คนอื่น ที่เหลือรอดจากฆาตรกรรมหมู่ เพราะ...
-เป็น อุจิวะ โอบิโตะ +มาดาระ ทั้งสองคน ที่รวมร่างกันแบบเดียวกับที่ คาบูโตะโดนโอโรจิมารุสิงสู่ เพราะ ขนาด คนอื่นยังมีหลายสิ่งมีชีวิตในตัวได้เลย ทำไมตระกูลอัจฉิริยะ ถึงจะมีมั่งไม่ได้
เข้ามาเป็นคู่หูกับเดอิดาระแทนซาโซริ และในตอนนี้เป็นที่แน่นอนแล้วว่าเค้าคือ...อุจิฮะ มาดาระ !!!...
>>เซ็ทสึ<<
อกครั้งแรกในมังงะตอนที่ : 234
ออกครั้งแรกในอนิเมตอนที่ :ตอนที่ 134หมู่บ้านลับ : หมู่บ้านคุสะ (หมู่บ้านลับแห่งหญ้า)
สิ่งที่โดดเด่น : คล้ายๆว่านหางจระเข้
กรุ๊ปเลือด : B
ส่วนสูง : 177 cm
>>ซาโซริ<<
อากาซึนะ โนะ ซาโซริ
ฉายาทรายแดงแห่งซึนะ มีความสามารถในการเชิดหุ่น เป็นหลานของท่านย่าชิโย ที่ปรึกษาของหมู่บ้านซึนะ เขาทรยศต่อหมู่บ้าน โดยลักพาตัวคาเซะคาเงะรุ่นที่3 เพื่อไปทำหุ่นเชิดมนุษย์ แต่ในที่สุดเขาก็สิ้นชีพในช่วงที่นินจาของโคโนฮะยกพลมาช่วยเหลือกาอาระที่ ถูกจับตัวไป เขาถือว่าเป็นนินจาที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นอัจฉริยะด้านการเชิดหุ่นเลยที เดียว
>>คาคุซึ<<
คาคุซึ
คาคุซึเป็นคนที่น่าเงินสุดๆอะไรอะไรก็เงินมาก่อน คาคุซึมีความสามารถมากมาย เพราะคาคุซึฆ่าใครแล้วจะเอาหัวใจของคนนั้นมา เป็นของตน ทำให้คู่นี้เป็นคู่หูอมคะ ทั้งสองคนจะเรียกว่าคนดีอะป่าวอิอิ เอาเป็นว่าทั้งสองคนนี้ไม่ค่อยจะลงรอยกันสักเท่าไร คาคุซึมีหัวใจอยู่5ดวง มี5ธาตุอีกด้วย เพราะฉะนั้นต้องฆ่าถึง5ครั้งแต่การฆ่าของคาคุซึแต่ละตัวไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยทีเดียว เล่นเอา คาคาชิจนมุนเลยก็ว่าได้ และโดนนารูโตะสังหาร โดยใช้ดาวกระจายกระสุนวงจักร และ เป็นที่น่าสนใจที่คาคุซึได้ฆ่าโฮคาเงะรุ่นที่1 และตัวละครสองตัวนี้มีสีสันมากและเป็นที่ชื่นชอบของใครหลายๆคนแต่ว่าต้องมา ตายเสียก่อน
คาคุซึเป็นคนที่น่าเงินสุดๆอะไรอะไรก็เงินมาก่อน คาคุซึมีความสามารถมากมาย เพราะคาคุซึฆ่าใครแล้วจะเอาหัวใจของคนนั้นมา เป็นของตน ทำให้คู่นี้เป็นคู่หูอมคะ ทั้งสองคนจะเรียกว่าคนดีอะป่าวอิอิ เอาเป็นว่าทั้งสองคนนี้ไม่ค่อยจะลงรอยกันสักเท่าไร คาคุซึมีหัวใจอยู่5ดวง มี5ธาตุอีกด้วย เพราะฉะนั้นต้องฆ่าถึง5ครั้งแต่การฆ่าของคาคุซึแต่ละตัวไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยทีเดียว เล่นเอา คาคาชิจนมุนเลยก็ว่าได้ และโดนนารูโตะสังหาร โดยใช้ดาวกระจายกระสุนวงจักร และ เป็นที่น่าสนใจที่คาคุซึได้ฆ่าโฮคาเงะรุ่นที่1 และตัวละครสองตัวนี้มีสีสันมากและเป็นที่ชื่นชอบของใครหลายๆคนแต่ว่าต้องมา ตายเสียก่อน
>>เดอิดาระ<<
เดอิดาระเป็นนินจาในสังกัดแสงอุษา จาก อิวะงาคุเระ เป็นผู้ใช้ดินเหนียว ที่สามารถดัดแปลงเป็นรูปต่าง ๆ ได้ โดยใช้มือแปลกๆของเขา มันกิน รูปปั้นดินเผาแล้ว มันจึงแปลงสภาพของมันตามรูปร่าง ที่คิดและเมื่อโจมตีดินเหนียวจะระเบิดซึ่งก็เป็นคาถาของเดอิดาระชื่อ ดินเหนียวระเบิด(คัทสึ)เขาเดินทางมากับอากาซึนะโนะ ซาโซริ[Sasori] เป็นนักเชิดหุ่นเหมือนกับ คันคุโร่ ซึ่งเป็นโจนินแล้วในตอนนั้น แต่แล้วเมื่อซาโซริตายเดอิดาระก้ได้จับคู่กับโทบิออกตามล่าสัตว์หาง เดอิดาระ นั้น เป็นตัวประหลาดตัวหนึ่งก็ว่าได้เพราะ มีลิ้นทั้งหมด 4อย่าง คือ มือซ้าย มือขวา ปากและหน้าอกซ้าย เดอิดาระเคยเฉียดตายมาหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ยังคงความมีชีวิตต่อได้ อีกทั้ง ระเบิด ต่างๆนั้นม ีความรุนแรงแตกต่างกันออกไปทั้งหมดมี 5C และ C5 นั้น ถือเป็นไม้ตายสุดยอดที่ระเบิดตัวเองไปตายพร้อมกันเนื่องมาจากว่า โมโหซาสีเกะ ว่าตาของซาสึเกะและอิทาจิไม่เคยเห็นคุณค่าของศิลปะเลยจึงระเบิดตัวเองและนึกขอโทษโทบิที่ต้องตายไปด้วยเพื่อที่จะฆ่าซาสึเกะให้ได้ แต่ซาสีเกะใช้คาถาย้ายมิติเวลาและได้ใช้เนตรวงแหวนสะกดมันดะ(สัตว์คาถาอัญเชิญของโอโรจิมารุ)แต่ระหว่างที่เข้าไปก็โดนระเบิดเข้าพอดี แต่ก็หนีออกมาได้โดยทีซุยเงสึใช้เลือดของซาสึเกะเพื่อที่จะใช้คาถาอัญเชิญเรียกมันดะออกมามันดะโกรธแค้นซาสึเกะมากแต่ก็ตายในที่สุด ฝ่ายนารูโตะก็ตามหาจนได้ร่องรอยของซาสึเกะแต่ปั๊กคุง(สุนัขนินจาของคาคาชิ)ได้บอกว่าไม่สามารถออกตามหาต่อได้แต่คิบะสามารถได ้กลิ่นซาสึเกะแล้วก้ออกตามหากันต่อแต่ก็ถูกคารินย้อนแผนโดยใช้เสื้อของซาสึเกะตัดให้เป็นหลายชิ้นแล้วให้นกที่จูโกะเรียกมาจิกและบินไปทุก ทิศทางทำให้คิบะไม่สามารถหาต่อได้นารูโตะจึงให้คาถาแยกเงาพันร่างหาทุกทิศทางแต่ก้ไม่เจอซาสึเกะแต่กลับได้เจออิทาจิ อิทาจิบอก ว่าตัวเอง มาเพื่อจะคุยกับนารูโตะ
เดอิดาระเป็นคนที่เข้าโจมตีหมู่บ้านซึนะงาคุเระและจับตัวกาอาระไปและนำตัวไปสูบพลังออกจนหมดจากนั้นเมื่อพวกนารูโตะมาถึงก็ ได้ทำการ เหยียดหยามศพกาอาระทำให้นารูโตะโมโหและได้มีพลังของจิ้งจอก9หางออกมา(ตอนนั้นไม่มีหางมีแค่หน้าตาที่คล้ายกับจิ้งจอก) และไล่ตามไปพร้อมกับคาคาชิ และท้ายสุดก็เสียแขนไปหนึ่งข้างจากวิชาเนตรกระจกของคาคาชิ แต่คาคาชิก็ใช้จักระไปมากกับการใช้เนตรนี้ สุดท้ายเดอิดาระก็หลบหนีไป ต่อมา คาคุซึ ซึ่งน่าจะเป็นนินจาแพทย์มีหัวใจถึง 5ดวงในคนเดียวและสามารถเล่นธาตุได้ทุกธาตุ ได้ช่วยต่อแขนใหม่หลังจากที่ไปตามหาแขนจนเจอ
พลังระเบิดของเดอิดาระมี 5Cได้แก่
1.C1 เป็นระเบิดที่เหมือนแมลงตัวเล็กๆ เมื่อปาไปแล้วจะระเบิด
2.C2ดราก้อน ใช้ดินเหนียวปั้นมังกรออกมาตัวนึง มีความสามารถในการสร้างระเบิดนำวิถี
3.C3 ไม่แน่ชัด แต่น่าจะเป็นกับระเบิดที่พอเหยียบไปจะระเบิดทันที
4.C4คารูร่า ระเบิดนาโนขนาดจิ๋วที่จะระเบิดร่างการศัตรูจากระดับเซลล์
5.C5 เปิดปากที่หน้าอกแล้วระเบิดตัวเอง มีรัศมี 10 กิโลเมตร
เดอิดาระได้ใช้พลังขั้นสุดท้ายเพื่อกำจัดซาสึเกะ แต่ซาสึเกะหนีรอดไปได
อิทาจิชอบกินดังโงะนะ และ ข้าวปั้นกับกะหล่ำปลี
ตอบลบงานอดิเรก ชอบเดินเข้าร้านขายขนม
นี่ พึ่งรู้นะเนี่ย ครับ
และความหมายของชื่อ น่าจะเกี่ยวกับ งู(โอโรจิมารุ)ด้วยนะ(พังพอนชนะงูนี่)
แต่ก็ ขอบคุร สำหรับข้อมูลนะครับ
คับผม...ฮ่าๆ
ลบ